วิชาตาที่สาม คืออะไร

เริ่มโดย อรุณเบิกฟ้า, 14 มกราคม 2025 12:26:15

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

อรุณเบิกฟ้า


การเรียนรู้หรือวิชาต่างๆ หากไม่ทบทวน มันก็ลืม ขอให้จำหลักการสำคัญ คือ

การใช้พลังตาที่สาม จะแบ่งเป็น 2 ภาค

1.ภาคการสะสมพลังงาน
หากขี้เกียจสะสมพลังงาน แล้วมีการ นำพลังงานทางจิตออกไปใช้เรื่อยๆไม่มีการเก็บประจุคืน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ข้างในมันไม่ไหว จะส่งผลมาที่ร่างกายด้วย ทำให้ป่วยเรื้อรัง เพลียเรื้อรัง หมอแผนปัจจุบัน รักษาไม่หาย นอนพักยังไงก็ไม่หายเพลีย มันจะเป็นถึงขั้นนั้น การสะสมพลังนี้เปรียบเหมือนเราชาร์ทแบตเตอรี่ หากใช้บ่อยๆ ไม่ชาร์ท พลังงานก็หมด ใช้ทำอะไรก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ เหมือนถ่านไฟฉายอ่อนลง ส่องไป ก็เห็นไม่ชัด

การจะสะสมได้เยอะ มีอย่างเดียวคือ ทำพลังจิตให้นิ่งเสมอๆ มันจะเก็บเข้าสะสมเอง ด้วยวิธีการกำหนดลม เข้ารู้ ออกรู้ ทำ อานาปานสติให้มากที่สุด ยิ่งสะสมมาก ยิ่งทำมาก ยิ่งดี และในเวลาที่สะสมพลังงานนี้ ห้ามใช้ตาที่สามโดยไม่จำเป็น เพราะจะเสียพลังงาน อย่างสูงทุกครั้ง ที่ใช้

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#1

2 ภาคการใช้ตาที่สาม
ทุกๆครั้งในการใช้สมาธิไปดูอะไรก็ตาม เช่น ตามหาของหาย จับสมาธิ ดูดวงให้ใครสักคน ตรวจดูโรคภัยในตัวคน ประจุพลังที่คุณสะสมมาจากภาคที่ 1 จะถูกใช้ออกไป หากใช้ ไปมากๆ คุณจะรู้สึกเพลีย หมอดูบางคน รับแขกได้วันละ 5 คน เพลียหนัก ต้องพักแล้ว ไม่สามารถ ใช้สมาธิต่อไปได้ จะเวียนหัวหนักมาก แน่นกลางหน้าอกตรงใต้ลิ้นปี่ นั่นคือพลังงานสะสมหมด ต่อให้คุณเอา สารกระตุ้น ชา กาแฟ กินเข้าไป ก็ไม่หายเพลีย สังเกตหมอดู หรือคนที่มีสัมผัสเรื่องพวกนี้ บางที มีแขก มีลูกค้ามามากๆ เขา ได้แต่ช่วยคนดูดวงทั้งวัน ตกค่ำก็เพลียเข้านอน ไม่มีเวลาหลีกเร้นไปภาวนา สะสมประจุพลัง ในไม่นาน เขาคนนั้นจะป่วยหนัก แบบฟื้นฟูยาก หรืออายุสั้นไปเลย

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#2

ข้อไม่ควรกระทำ
1.ห้ามดูพลังพระเครื่อง
2.ไม่ควรเอาสมาธิไปดู คนนั้นคนนี้ ว่าใคร ยังไง แทนที่จะตรวจเข้ามาที่ตนเอง เช่น ไปดูว่าพระสงฆ์รูปนั้นๆ ขั้นไหนแล้ว บางที ท่านปิดด้วยสมาธิขั้นสูง จะไม่มีใครสามารถดูท่านออก ถ้าไปว่าท่าน จะเป็นกรรม
3.ห้ามดูหวย
4.วุ่นวายไปกับการเมือง
***หากไม่ทำตามแนะนำมา เดือดร้อนอะไร มาท่านรับผิดชอบตนเอง...

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#3

ลำดับการฝึก
เมื่อมาถึงวัด หรือสำนัก โดยมากจะให้พัก 1 คืน ก่อน ให้นอนมากที่สุด อย่างน้อย 8 ชม. เพราะ ตอนฝึกจะต้องใช้พลังมาก กายกับจิตมันสัมพันธ์กัน หากนอนไม่พอ หลังรับการฝึก คนนั้นจะป่วย และหากช่วงมาฝึก มีอาการร่างกายป่วย จะไม่ฝึกให้เลย เพราะพลังข้างใน มันต้องพ่วงกับร่างกายที่พร้อม
และมีหลายกรณีที่ ที่ฝืน ดื้อขอฝึก พอไปถึง ขณะฝึก จะไปเจอผลกระทบ เช่น ใช้สมาธิดู ต่อไปไม่ได้ ได้แค่บางส่วน ไม่ได้ผลเต็มร้อย

ขั้นตอนฝึก โดยมาก หลังจากพักที่วัด 1 คืน วันต่อมา ก็ทำกิจต่างๆ สักประมาณ 9 โมง อาจารย์จะให้สมาทานคำฝึก แล้วนั่งสมาธิรอ แล้วฝึกให้ทีละคน ใช้เวลาคนละประมาณ 30 นาที แต่ถ้า ณ ตรงนั้น ใครที่ จิตดิ่ง ไปได้เยอะ ก็จะพาไปสัมผัส ภพภูมิละเอียด หรือสอนการสื่อสารกับภพเหล่านั้น ซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้ว ณ ที่ฝึก จะมีครูคุมช่วยกัน อย่างน้อย 3 ท่าน และทุกท่าน มีส่วนช่วยมากในช่วงฝึก ใช้พลังสมาธิของครูเหนี่ยวนำด้วย จึงได้บอกว่า ไม่อยากสอนทั้งปี เพราะเหนื่อยมาก ต้องขอครูที่ว่าง และคนที่เคยฝึกได้ มาเป็นพี่เลี้ยงให้ มันไม่ใช่งานง่าย
จะอธิบายไว้เพียงเท่านี้ ไม่ขอลงลึก จะเป็นปัญหา คนไม่ได้มาศึกษาด้วย ไม่เข้าใจ จะไปกันใหญ่ หาว่าอวดอุตริกันไป และมีหลายท่าน ถามเข้ามาว่า อันเดียวกับวิชามโนมยิทธิไหม ที่จริงก็คือฝึกให้จิต สัมผัสได้มีฤทธิ์นั่นแหละ แต่เน้น ลงที่จุดความรู้คล้ายตาทิพย์ คนที่ฝึกมโนมยิทธิมา กับคนที่ฝึกจากที่นี่ เอาแบบที่ได้จริงๆนะ สามารถสัมผัส เรื่องในโลกทิพย์ตอบได้ตรงกัน
เช่น นำบุคคล ของทั้งสองสาย ไปที่ใดที่หนึ่ง ที่ทั้งสองไม่เคยไปมาก่อน ให้เขาดูเจ้าที่ หรือผี ณ ตรงนั้น จะสามารถตอบได้ตรงกัน แต่ของที่นี่ จะให้สัมผัสภพภูมิใกล้ก่อน ถ้าตอบแค่เจ้าที่ เจ้าทาง หรืออารักษ์ที่รักษา ตามที่ต่างๆไมได้ ภพภูมสูงกว่านี้ ห้ามไปพูดถึง และถ้า ยังไม่สามารถเห็นพวกเขาได้ ก็ไม่มีทางจะสื่อสาร กับพวกเขาได้ มันทีละขั้น สมาธิ มันจะละเอียดไปตามลำดับๆ ดูน้อยลง

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#4

การขึ้นพานครู /อามิสบูชา
พานครูในที่นี้ ประกอบด้วย ธูป เทียน ดอกไม้ ให้จัดตามสมควร ดอกไม้ได้ทุกสี ธูป 1 ห่อ เทียน 1 ห่อ ใส่บนจานใหม่ หรือพาน ตั้งบูชาไว้ที่หิ้งพระ ในครั้งแรก ที่ฝึก ตาที่สามครั้งแรก จะตั้งไว้ตลอดก็ได้ เปลี่ยนเพียงดอกไม้ ให้ระลึกไหว้บูชาพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ทั้งหลายที่สืบๆ กันมา จนถึงปัจจุบัน
ดอกไม้เปลี่ยนใหม่ในวันพระ ธูปเทียน คงไว้ /ดอกไม้ ให้เอาไปจำเริญ ห้ามทิ้งลงถังขยะ /การจำเริญ คือ หย่อนลงแม่น้ำ ไว้โคนต้นไม้ใหญ่ หรือใช้ไฟเผา แต่สมัยนี้ลงแม่น้ำไม่เหมาะนัก /ก็เก็บรวมๆไว้ ค่อยเอาเผา นานๆทีก็ได้ หากไม่สะดวกเผาเอาไว้โคนไม้ดีที่สุดมลภาวะน้อย
ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ ก็กล่าวคำสมาทาน แล้วยกพาน ขึ้นบูชาด้วย เอาเงินใส่ ครั้งละ 1 บาท(หรือมากกว่า เงินนี้ เอาไปไว้ใช้ทำบุญ มันจะเป็นจาคานุสติ จะได้สมาธิไวขึ้น)

***/หากท่านใดมีความเห็นต่าง ก็ไม่ว่ากัน แต่ที่นี่ สำนักนี้ แนะนำให้ทำอย่างนี้ เพราะอามิสบูชา เป็นเครื่องน้อมนำศรัทธาได้ ถ้ามีศรัทธา สมาธิบางส่วนเกิดง่ายขึ้น และเป็นเครื่องวัดว่า ขนาดของภายนอกจับต้องได้ ยังไม่สู้ขวนขวายหามา จิตก็หยาบมาก สมาธิละเอียดๆ จะมีได้อย่างไร เป็นคนไม่เห็นค่าของครูอาจารย์ และการบูชาคุณ

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#5

มีท่านหนึ่งถาม ค่อนข้างมีประโยชน์มาก

คำถาม ขอถามค่ะ ฝึกทิพยจักขุญาณ เพื่อหวังสิ่งใดคะ มันเป็นแค่ขั้นโลกียะ ผู้ใดปฏิบัติได้ฌานขั้นต้น สงบ ระงับได้ บุญบารมีถึงก็จะได้เอง
แต่เมื่อติดหลงอยู่แค่ขั้นอภิญญานี้ มันก็ไม่น่าเกิดผลดีเท่าไหร่ คงสลัดกิเลสไม่หลุด

ตอบ -โดยมากคนที่ฝึก เอาไว้ใช้สงเคราะห์คน และเป็นหนึ่งในการฝึกของทางศาสนาพุทธ เพราะแต่ละคนอัธยาศรัย ไม่เท่ากัน บางคนเคยทำมาทางวิชชาสาม ก็เพื่อต่อยอด เพราะคนทุกคนไม่ใช่สายสุกขวิปัสสโก แต่อย่างเดียว ส่วน หากฝึกแล้ว จะต่อยอดทางใด ขึ้นทางวิปัสสนาต่อ หรือติดอยู่แค่ญานโลกีย์ ก็สุดแท้แต่บุคคล ทิพจักษุ เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น ถ้าฝึกได้มันก็ดี เพราะสมถกรรมฐาน เป็นบาทให้วิปัสสนาอีกที

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#6

การแยกอุปาทาน ออกจากโลกทิพย์
หากฝึกไประดับหนึ่ง บางครั้งจะยังแยกยากระหว่าง จิตเราปรุงแต่งภาพในหัวไปเอง หรือโลกทิพย์จริงๆ การแยกไม่ยาก เช่น ถ้ามีภาพ เทวดาปรากฏตรงหน้า ท่านแต่งกาย สีฟ้า ใช้การกำหนดดูไปที่เทวดา ให้กำหนดเปลี่ยนสีเทวดา ถ้าเปลี่ยนสีตามใจเรา นั่นเทวดาปลอม นิมิตอุปาทาน แต่ถ้ากำหนดให้เปลี่ยน ท่านคงที่ชุดเดิม เท่าเดิม ดีไม่ดี ยกไม้มือ ทำทีเป็นดุเรา นั่นของจริง เมื่อฝึกไปเรื่อยๆจะชำนาญ สูงขึ้นไปเอง ขออย่าให้ทิ้งการภาวนา แบบอานาปานสติเยอะๆก็พอ มันจะละเอียดสูงขึ้นไปเอง

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#7

อย่าแชร์

เรียนหลักสูตรเดียวกัน แต่ผลไม่เท่ากัน
บางคนฝึกแล้ว ได้ละเอียด จะได้ 2 ทาง 1.คล้ายมโนมยิทธิ สัมผัสจะปรากฏขึ้นที่จิต หยั่งรู้ที่จิตสัมผัส 2.ความรู้คล้ายตาทิพย์ จะสัมผัสภาพ บรรยายออกมาในลักษณะภาพ

บางคนอธิบายภาพไม่ได้ แต่สามารถบอกจากความรู้สึกได้เช่น รู้สึกว่าตรงนี้มีผีผู้ชาย กี่ตนๆ บอกได้ครบ แต่ไม่สามารถบอกรูปร่างได้ เวลาเช็คบอกครั้งกับคนที่ได้แบบละเอียด จะตอบคล้ายกัน แต่บรรยายภาพไม่ได้

ณ ตอนฝึก ครูฝึกจะพากำหนดอารมณ์สู่สมาธิ เมื่อถึงจุดหนึ่ง จะปรากฏแสงสีต่างๆ โดยมาก ม่วงปนส้ม เป็นแสงสว่าง เมื่อแรกจะเห็น นั้น แสงต่างๆจะจางลง แล้วเป็นเหมือนหมอก แทน จากนั้นจะค่อยๆ เห็นสภาพของวิญญาณต่างๆ จะเห็นผีก่อน เมื่อจิต เข้าสมาธิละเอียดไปอีก จึงเห็นเทวดา ได้ จะไล่จากหยาบไปละเอียด เมื่อละเอียดมากๆ จะสามารถสื่อสารกับวิญญาณต่างๆได้ ทั้งหมดนี้ถือว่าเล่านิทานนะ อย่าพึ่งเชื่อ ให้มาฝึก เมื่อได้ละเอียดๆ ครูฝึกจะพาไปที่ต่างๆ ที่ทุกคนไม่เคยไป ขับรถพาไป แล้วให้กำหนดสมาธิดูจุดต่างๆ เขียนบันทึก ถ้าตอบได้ตรงก็ถือว่าผ่าน ก็พาไปตรงที่เคย มีคนตาย เคยเกิดรถคว่ำบ้าง เคยเกิดฆาตกรรมบ้าง

***โปรดอ่านประดับความรู้ก็พอ ไม่ควรแชร์ ****จะไม่อธิบายลึกไปกว่านี้ ขั้นลึก ขอสงวนไว้สอนตอนเรียน เพราะ จะต้องไล่ตามภูมิของคนที่เรียน ไม่สามารถลงรายละเอียดทั้งหมดได้ บางเรื่องมันลึก ต้องคนที่ฝึกสมาธิ ฝึกจิต จึงจะเข้าใจ

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ

อรุณเบิกฟ้า

#8

ไฟไหม้มือเด็ก นักปฏิบัติที่พลาดพลั้งในการฝึก
ทุกอย่าง มีคุณมีโทษ (ในที่นี้หมายถึงทิพจักษุและตาที่สาม) ใช้ดีเกิดประโยชน์ ใช้ไม่ดีย้อนกลับมาทำลายตนเองให้มอดไหม้ เรื่องฤทธิ์ หรือทิพจักษุ เป็นเพียงแค่ของเล่น หรือของแถมจากการฝึกจิตเท่านั้น บุคคลที่เคยได้ในกาลก่อนๆ หมายถึงภพชาติก่อน เมื่อปฏิบัติฝึกไปถึงจุดหนึ่งๆ มันจะได้เอง จากสมาธิที่ได้ระดับจุดที่ใช้ได้ เปรียบเทียนเหมือน การจูนคลื่นวิทยุ ได้ความถี่ที่เหมาะสม ก็ย่อมรับสัญญาณ ได้ยินในความถี่นั้นๆ คนที่ฝึกกับครูอาจารย์ โดยทางลัด จะได้ไว การได้ไว อาจจะเป็นดาบ 2 คน เหมือนการหัดเด็ก ที่อายุยังไม่สมควรขับรถยนต์ แต่ดันขับรถยนต์เป็น เขาย่อมไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง เคยเจอในหลายกรณีบุคคล ที่มาขอฝึก ซึ่งทางนี้ สัมภาษณ์ชีวิต ว่าทำอะไร อย่างไรบ้างเขายังศีล 5 ไม่เต็ม ซึ่งแน่นอน ศีลห้าไม่เต็ม ยังพร่อง ทางนี้ถือว่า ฐานไม่แน่น จะไม่ฝึกให้เลย เขาตกข้อสุรา และข้อกาเมฯ สุดท้าย สำนักนี้ไม่ฝึกให้ ก็ดื้อไปฝึกที่อื่น พอฝึกได้ เพราะมันเป็นระดับของฌานโลกีย์ ได้ไม่ยาก ใหม่ๆมา แกบอกหวยคนถูกต่อกัน 6 งวด สามารถหยั่งรู้ อดีตคน ใครทำความผิดอะไร เคยทำแท้ง เคยทำบาป บอกเป็นฉากๆได้
แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อศีลยังพร่อง แต่ได้สมาธิ เหมือนเรา พึ่งถมดิน ยังไม่ได้ ลงฟุตติ้ง ลงคาน ตอกเสาเข็ม พอสร้างอาคารสูงขึ้นๆ ดินรับน้ำหนักมากขึ้น อาคารก็ถล่มลงมา ถึงวันหนึ่ง สมาธิตีกลับ ทีนี้เพ้อเจ้อเลย คุยกับพระอินทร์ทั้งวัน คุยกับผีทั้งวัน จนต้องเข้ารพ. ให้หมอรักษาทางจิตประสาท รักษาอยู่นานกว่าจะหาย คนอิสานเรียกอาการนี้ว่าคนธรรมแตก ดีนะที่ยังเอาคืนได้ มีสติคืนมา บางคนบ้ายาวเลยตลอดชีวิต

อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ