การปล่อยสัตว์เสริมดวง ต่ออายุ

เริ่มโดย อรุณเบิกฟ้า, 3 พฤศจิกายน 2024 15:52:43

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

อรุณเบิกฟ้า


การปล่อยสัตว์เสริมดวง ต่ออายุ

ความเชื่อชาวพุทธในไทยเรานิยมปล่อยนก ปล่อยปลา เพื่อเป็นการทำบุญ ต่ออายุ สะเดาะเคราะห์ ต้นที่มา ก็คือ เรื่องราวในสมัยโบราณ มีสามเณร 1 รูป ท่านอยู่กับพระอาจารย์ที่มีตำราดูดวง ท่านดูแล้วไม่เคยพลาดตรงทุกครั้งดูแม่น เห็นแล้วว่า เณรรูปนี้ต้องตาย ใน 7 วัน

จึงอยากให้เณรกลับไปที่บ้านเกิดเณร พบพ่อแม่ ไปตายในอ้อมอก ที่บ้าน จึงได้ออกอุบายให้เณรกลับบ้าน ก็บังเอิญว่าขากลับบ้าน เณร เดินลัดผ่านท้องทุ่ง ไปเจอ ปลาติดอยู่ในปลัก ซึ่งน้ำมันแล้ง ปลาเหล่านั้น ติดอยู่ในโคลนปลัก ด้วยจิตคิดเมตตา จึงจับเอาปลาพวกนั้น ไปปล่อยลง ในสระที่มีน้ำเยอะ
 
จากนั้นเณร ไปอยู่ที่บ้านจนครบ 7 วัน จึงกลับไปหาพระอาจารย์ หลวงพ่อตกใจมากที่ผิดตำรา จึงคิดจะเอาตำราไปเผาทิ้ง  แต่ระหว่างนั้น จึงถามเณร ว่า ขณะกลับบ้านไปทำอะไรที่พิเศษไหม จึงทราบว่า จิตเมตตา เอาปลา ที่มันติดในปลักโคลน กำลังจะแห้งตาย ไปปล่อยลงน้ำ

เป็นอานิสงส์บุญมาต่ออายุให้เณร นับจากนั้นมา ชาวพุทธ จึงทำตามๆกันมา จากต้นเหตุ ปรารภดังว่า ผู้เขียนเอง สมัยยังเด็ก(ช่วงม.ต้น) ก็ทำบ่อย เพราะเคยได้อ่าน เรื่องเณรปล่อยปลานี่แหละ เพราะอยู่บ้านนอก เวลาปลายฝน เข้าหน้าหนาว น้ำจะแล้ง ได้โอกาส ไปเล่นทุ่งนา ช่วยปลาติดโคลน ส่วนตัวแล้ว เวลาเจอเหตุไม่คาดคิด เช่น ตกรถ ไปขึ้นรถไม่ทัน จองตั๋วไม่ทัน หรือมีเหตุขัดข้อง มักจะมีคนมาช่วยทันควัน แบบไม่ต้องขอร้อง ทุกที ส่วนตัวคิดว่า อานิสงส์ส่วนนี้ เพราะปล่อยปลาทีไร อธิษฐานว่า "เวลาเราตกยาก ให้รอดพ้น แบบปลาพวกนี้นะ "

จากมูลเหตุเณรปล่อยปลา นี่แหละ ชาวพุทธไทย จึงทำตามๆกันมา จนกลายเป็นธุรกิจบาปปล่อยปลาหน้าวัด ปล่อยนกหน้าวัด ปลาโดยมากก็ปลาตัวเล็กๆ ปล่อยลงไป ก็ไม่รอด ปลาที่ท่าน้ำตัวโตๆ มาฮุบกินหมด ได้บาปไปอีก บ้างก็ เอาปลาไหล ไปปล่อยในแม่น้ำเชี่ยวๆ มันก็ตาย เพราะปลาไหล ชอบน้ำไม่ไหลแรง ชอบน้ำไม่ลึกมากโคลนเยอะๆ บ้างก็เอาเต่าบกไปปล่อยลงน้ำ ก็จมน้ำตาย บ้างก็เอาไปปล่อยลงสระวัด เต่า ปลาแออัดกันไปหมด ขาดสารอาหาร ค่อยๆตาย

ที่สำคัญ ปลา เต่า ปลาไหล ที่ถูกเอามาขังไว้รอ ให้พวกคุณซื้อปล่อย บางที ขังไว้นานหลายวันอดอาหารจนผอมโซ กว่าคนจะซื้อ สนับสนุน ให้คนทำบาป ในวงจรบุญไปอีก

 นกเหมือนกัน โดยมากนกกระจาบ เจอจับมาขังไว้สักระยะ ให้กินน้ำผสม ชะเอม หรือผสมยาเสพติดบางตัว  จนมันเสพติด ไปกินน้ำที่อื่น ก็ไม่ชื่นใจ เท่าน้ำที่บ้าน ของคนขายนก ตกเย็น นกมันก็ไปนอนที่บ้านคนนั้นแหละ เขาก็จับมาวน เป็นวงจร

ผู้เขียนเอง เมื่อโตมา อาศัย อยู่บ้านนอก เดี๋ยวก็มีคนจับสัตว์แปลกๆได้ เขาจะเอาไปทำกิน เราก็ซื้อไปปล่อย ชายป่า หรือสถานที่ที่เขาจะรอด มีตัวแลน กิ้งก่า นกแปลกๆ นกเป็ดน้ำบ้าง เป็นต้น ปล่อยแบบนี้ จึงเป็นการให้ชีวิตเขา มันจึงได้อานิสงส์

ส่วนการไถ่โคกระบือ เคยทำโครงการ ช่วยไปประมาณ เกือบ 30 ตัว สุดท้าย เวทนา คนที่เอาไปดูแลต่อ ดูแลไม่ดี ทิ้งขว้าง บ้างก็อดอาหารซูบผอม หลังจากนั้นมา เลยเลิกทำ เพราเราไถ่มาให้รอด แต่วัวควาย มาเจอ การทรมาน ที่ยิ่งกว่าตาย จึงเลิกทำ
จึง ปล่อยแค่สัตว์ ที่มันจะเอาตัวรอดในธรรมชาติแทน

ปล่อยเต่า ให้คุณปล่อย ที่ข้างๆบึง ปล่อยบนบกนั่นแหละ เพราะอาจจะแยกไม่ออกว่าเต่าบก เต่าน้ำ เขาจะไปเอง แต่ให้ปล่อยในที่ ที่คนไปยากๆ ไม่งั้นเจอจับวนมาขาย เต่าน้ำมันจะค่อยๆคลานลงน้ำไปเอง เต่าบก มันจะขึ้นบกไปหลบคนเอง
ปล่อยหอยขม ก็ต้องแม่น้ำ ที่ไม่เชี่ยวมาก ปล่อยใกล้ๆ ริมฝั่ง อย่าน้ำลึก หรือปล่อยในสระ ที่เขาหวงห้ามคนลง สระวัดได้ แต่ต้องไม่แออัด แบบวัดในกทม.

ปล่อยปูทะเล ก็ไปที่ป่าชายเลน ที่คนเข้าไม่ถึง โน่น ไม่ใช่ตกเย็นคนไปจับมาขายวน หรือไปโยลงทะเล โครมๆ มันก็ไปตาย
ก่อนปล่อยอธิษฐานได้ แต่อย่านาน อย่าให้เขาทรมาน แล้วไม่ต้องไปให้ใครทำพิธีกรรม อะไร ปล่อยก็ได้บุญแล้วจบไป  ยิ่งนาน เขาทรมาน บุญก็ลดทอนไป เคยแนะนำคนมีอายุหลายๆคนที่ป่วยเรื้อรัง ทำตาม ทุกวันนี้หลายๆคนยังมีชีวิต อยู่สบายกับลูกหลาน
ส่วนคนที่แนะนำไป แล้วฝืน ไม่เอาตาม แถมปรามาสด้วยว่า เอาไปต้มกินบำรุงร่างกายเถอะ จะอายุยืนกว่าปล่อย คนแนวๆนี้ ตายหมดละ
แถมอีกนิด ที่ว่าปล่อยอะไร ห้ามกินตัวนั้น นั่นท่านห้าม กลัวไปกินโดนตัวที่เคยปล่อย จะเป็นการผิดสัจจะ วันหนึ่งเคยให้ชีวิต วันหนึ่งไปกิน ถ้าคุณปล่อยที่เชียงราย มากินที่อุบลฯ ก็คงยากที่จะเจอตัวนั้น

 แล้วมันจะเกิดผลเสียมาก คือดวงคุณจะตกอย่างไว ก็สมัยโบราณ คนโบราณเขาได้ไปต่างถิ่นซะที่ไหน ก็มีโอกาสกินโดนตัวที่ปล่อย แน่นอน ความน่าจะเป็นมันมี
 
อาจาย์ ปาล์ม เผยแพร่เป็นธรรมทานเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2562
FB : อ.ปาล์ม เว็บผลบุญ แฟนเพจ